• Phone
  • Map
  • Line
× Send

ความแตกต่างที่คุณควรรู้

ในยุคปัจจุบัน ซิลิโคนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ตั้งแต่ของใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น ทนทานต่อความร้อน และไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ทำให้ซิลิโคนเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ตาม ซิลิโคนไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมือนกันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง “ซิลิโคนเกรดอาหาร” และ “ซิลิโคนธรรมดา” แม้จะดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่ม

ซิลิโคนคืออะไร?

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าซิลิโคนคืออะไร ซิลิโคน (Silicone) เป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่ประกอบด้วยซิลิคอน (Silicon) ซึ่งเป็นธาตุที่พบมากเป็นอันดับสองในเปลือกโลก ออกซิเจน คาร์บอน และไฮโดรเจน โครงสร้างโมเลกุลที่เป็นเอกลักษณ์ของซิลิโคนทำให้มันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ เช่น:

ความแตกต่างที่สำคัญ: ซิลิโคนเกรดอาหาร vs. ซิลิโคนธรรมดา

แม้จะมีคุณสมบัติพื้นฐานคล้ายกัน แต่ความแตกต่างระหว่างซิลิโคนเกรดอาหารและซิลิโคนธรรมดาอยู่ที่ มาตรฐานการผลิตและความบริสุทธิ์ของวัสดุ

ซิลิโคนเกรดอาหาร (Food-Grade Silicone)

ซิลิโคนเกรดอาหาร คือซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อการใช้งานที่ต้องสัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่มโดยตรง ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของอาหาร เช่น องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) หรือหน่วยงานเทียบเท่าในประเทศอื่น ๆ

คุณสมบัติเด่นของซิลิโคนเกรดอาหาร:

ตัวอย่างการใช้งาน: อุปกรณ์ทำอาหาร (ตะหลิว, ทัพพี), แม่พิมพ์เบเกอรี่, ภาชนะเก็บอาหาร, จุกนมหลอกเด็ก, ช้อนสำหรับเด็ก, ซีลฝาภาชนะ, อุปกรณ์สำหรับทำไอศกรีม เป็นต้น

ซิลิโคนธรรมดา (General-Purpose Silicone / Industrial-Grade Silicone)

ซิลิโคนธรรมดา หรือซิลิโคนเกรดอุตสาหกรรม เป็นซิลิโคนที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการสัมผัสกับอาหารโดยตรง อาจมีสารเติมแต่งบางชนิดที่ไม่ได้ตั้งใจให้สัมผัสกับอาหาร หรือมีสิ่งเจือปนในกระบวนการผลิตที่อาจไม่ปลอดภัยหากนำไปใช้กับอาหาร

คุณสมบัติเด่นของซิลิโคนธรรมดา:

ตัวอย่างการใช้งาน: ยาแนว (sealant) สำหรับก่อสร้าง, ซีลสำหรับอุตสาหกรรม, ชิ้นส่วนรถยนต์, อุปกรณ์ไฟฟ้า, ของเล่นบางชนิด (ที่ไม่ได้ระบุว่าเกรดอาหาร), อุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด (ที่ไม่ใช่เกรดสำหรับสัมผัสภายในร่างกายโดยตรง) เป็นต้น

สรุปความแตกต่าง

ทำไมต้องเลือกซิลิโคนเกรดอาหาร?

การเลือกใช้ซิลิโคนเกรดอาหารสำหรับอุปกรณ์และภาชนะที่สัมผัสกับอาหารเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค หากใช้ซิลิโคนธรรมดาที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีความเสี่ยงที่สารเคมีที่เป็นอันตรายจะรั่วไหลออกมาปนเปื้อนอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับความร้อน หรือเมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ซิลิโคน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในครัว ภาชนะเก็บอาหาร หรือแม้กระทั่งของเล่นสำหรับเด็กอ่อน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นระบุว่าเป็น “ซิลิโคนเกรดอาหาร” (Food-Grade Silicone) หรือมีการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *