เมื่อพูดถึง ซิลิโคนที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร หนึ่งในคำถามสำคัญที่ควรพิจารณาคือ “ปลอดภัยจริงไหม?” โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีซิลิโคนหลากหลายเกรดให้เลือกใช้ การเข้าใจถึง มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลอย่าง FDA (สหรัฐฯ) และ LFGB (ยุโรป) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
มาตรฐาน FDA คืออะไร?
FDA (Food and Drug Administration) คือหน่วยงานจากสหรัฐอเมริกาที่รับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร เช่น ภาชนะห่ออาหาร พิมพ์ขนม และแม่พิมพ์อบขนมต่างๆ หากผลิตภัณฑ์ใดผ่านมาตรฐาน FDA จะต้อง:
- ผ่านการทดสอบ “การอพยพของสาร” (Migration Test) เพื่อตรวจสอบว่าสารเคมีจากซิลิโคนจะไม่แพร่เข้าสู่อาหารในระดับอันตราย
- อยู่ในกลุ่มวัสดุที่ได้รับการยอมรับว่า ปลอดภัยโดยทั่วไป (GRAS)
แม้ FDA จะมีมาตรฐานที่เข้มงวด แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการใช้สารบางประเภทหากพิสูจน์ได้ว่าปลอดภัย ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในตลาดอเมริกา
มาตรฐาน LFGB คืออะไร?
ในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนี มีมาตรฐานที่เรียกว่า LFGB (Lebensmittel-, Bedarfsgegenstände- und Futtermittelgesetzbuch) ซึ่งแปลตรงตัวคือ กฎหมายอาหารและผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร
จุดเด่นของมาตรฐาน LFGB ได้แก่:
- วิธีการทดสอบที่ละเอียดและเข้มงวดกว่า โดยพิจารณาการปล่อยสารเคมีในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง
- จำกัดการใช้สารเคมีอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเด็กหรืออาหารที่มีความไวต่อสารเคมี
ซิลิโคนที่ผ่านมาตรฐานนี้ จึงได้รับความเชื่อถือสูงในตลาดยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม
ควรเลือกซิลิโคนเกรดไหน?
การเลือกว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนที่ผ่าน FDA หรือ LFGB ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 3 ประการ:
- ตลาดเป้าหมายของคุณอยู่ที่ไหน
- หากต้องการจำหน่ายในอเมริกา การผ่าน FDA ก็เพียงพอ
- แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี ควรเลือกซิลิโคนที่ผ่านมาตรฐาน LFGB
- หากต้องการจำหน่ายในอเมริกา การผ่าน FDA ก็เพียงพอ
- วัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์
- หากซิลิโคนต้องสัมผัสอาหารเป็นระยะเวลาสั้น เช่น พิมพ์วุ้น ถาดอบขนม อาจใช้แค่ FDA
- แต่หากใช้กับอาหารที่ต้องสัมผัสนาน หรือเป็นของใช้เด็ก เช่น จุกนม ขวดนม กล่องข้าว ควรเลือกแบบที่ผ่าน LFGB
- หากซิลิโคนต้องสัมผัสอาหารเป็นระยะเวลาสั้น เช่น พิมพ์วุ้น ถาดอบขนม อาจใช้แค่ FDA
- ต้นทุนและความคุ้มค่า
- FDA มีต้นทุนในการทดสอบต่ำกว่า จึงเหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากในต้นทุนที่จำกัด
- LFGB ให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยมากกว่า แต่ต้นทุนการตรวจสอบและรับรองสูงกว่า
- FDA มีต้นทุนในการทดสอบต่ำกว่า จึงเหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากในต้นทุนที่จำกัด